วันพุธที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2553

คุณรู้จัก "ผม" ดีแค่ไหน

 คำถามสำหรับหลายๆคน คุณรู้จัก "ผม" ดีแค่ไหน บางคนก็ตอบได้ บางคนก็ตอบไม่ได้ สำหรับวันนี้ ดิฉันจะนำบทความ เกี่ยวกับผม มาฝากกันนะค่ะ

1. ตามธรรมชาติแล้ว เส้นผมของคนเราจะยาวขึ้นเดือนละประมาณ 12 มิลลิเมตร โดยตั้งแต่ผมเริ่มงอกจนกระทั้งผมร่วง กินเวลาประมาณ 3-6 ปี

2. อยากรู้ว่าผมแข็งแรงแค่ไหน ลองดึงผมออกมาเส้นหนึ่ง จับปลายทั้งสองข้างแล้วดึงให้ตึง เส้นผมที่แข็งแรงจะยืดได้อีกราว 30 เปอร์เซ็นต์ ก่อนจะขาดจากกัน ถ้าขาดเร็วกว่านั้น แสดงว่าผมเริ่มมีปัญหา ต้องดูแลอย่างเร่งด่วน

3. การกินอาหารที่มีวิตามินบี และโปรตีน ช่วยบำรุงเส้นผมให้แข็งแรง ทั้งยังสามารถป้องกันและยับยั้งการหลุดร่วงของเส้นผมได้

ข้อมูลดีๆ จาก หนังสือ Woman

วันอังคารที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2553

7 วิธีที่ทำร้ายเส้นผมของคุณ.....โดยไม่รู้ตัว

สวัสดีค่ะ วันนี้ดิฉันได้ศึกษาการดูแลผม ทำให้ได้รู้ว่าหลากหลายอย่างที่เราทำไป ทำให้ทำร้ายเส้นผมโดยไม่รู้ตัวที่ ดิฉันจึงได้ศึกษาและนำมาให้คุณได้อ่าน เพื่อความสุขสดชื่นของเส้นผมของคุณ แล้วคุณจะรู้ว่าการรักษาเส้นผมได้ดีนั้นมีอยู่จริง


1. คุณไม่ควร หวังสีผมสวย โดยไม่ทำอะไร
ใคร ๆ ก็อยากมีสีผมสวยสดใส ราวกับเพิ่งทำสี ออกจากร้านสด ๆ ร้อน ๆ แต่โชคร้ายว่า สีผมสวยสดใส แบบนั้นน่ะไม่มีวันอยู่กับคุณได้ตลอดไป ถ้าคุณไม่ดูแลใส่ใจอย่างจริงจัง สีผมทุกยี่ห้อจะค่อย ๆ ซีดจาง และดูหมองไปตามวันเวลา แต่คุณสามารถช่วยได้ด้วยการเลือกใช้ ผลิตภัณฑ์สำหรับผมทำสีโดยเฉพาะ ซึ่งผลิตภัณฑ์เหล่านี้ จะมีส่วนผสมที่เข้าไปทำปฏิกิริยา กับสารเคมีในสีผม ช่วยให้สีผมสว่างสดใส และดูสดใหม่ ได้นานกว่าหลายเท่านอกจากนี้ ผมที่มีสุขภาพดีจะสามารถยึดเกาะสีให้ติดแน่น ได้มากกว่าผมแห้งเสีย ดังนั้นคุณต้องบำรุง และดูแลเส้นผมด้วยคอนดิชันเนอร์รุ่นบำรุงล้ำลึกเป็นประจำด้วย เพื่อสีผมที่สวยสดใสตลอดไป


   2. คุณไม่ควร ใช้เครื่องมือราคาถูก
รู้ค่ะว่าเงินน่ะหายาก แต่อยากให้คุณลงทุนสักหน่อยกับแปรงหวีผมดี ๆ สักอัน ทำไมน่ะหรือ ก็เพราะการแปรงผมด้วยแปรงดี ๆ นั้นจะช่วยทำให้เส้นผมของคุณมีสุขภาพดีขึ้นได้ด้วย การกระตุ้นให้ต่อมไขมัน ผลิตน้ำมันตามธรรมชาติออกมาหล่อเลี้ยงเส้นผม ช่่วยให้เส้นผม เป็นมันเงาไม่ฟุ้งฟู และจัดทรงได้ง่ายยิ่งขึ้น ถ้าจะให้เด็ดลองหาแปรง ที่ทำจากขนสัตว์ธรรมชาติ ซึ่งจะช่วยลดแรงเสียดทานในการหวีผม และยังช่วยลดความเครียด ให้กับเส้นผมและหนังศีรษะ อีกด้วย และท้ายสุดอย่าลืมทำความสะอาดหวี และแปรงของคุณอย่างเป็นประจำด้วย



3. คุณไม่ควร ใช้หนังยางรุ่นดึก
ช่วงนี้ฮิตเป็นพิเศษกับการรวบหางม้าเป็นสปริงเด้งดึ๋งตามแคทวอล์กแฟชั่น เราจึงอยากเตือนคุณว่า อย่าได้หลับหูหลับตาหยิบหนังสติ๊กมัดถุงกับข้าวมามัดผมเป็นอันขาด เพราะหนังยางประเภทนั้นจะดึงเส้นผมให้ฉีกขาด แถมยังทำลายเกล็ดผมอีกด้วย ดังนั้นสาวผมยาวทั้งหลายที่ชอบมัดผม ควรหาซื้อหนังยาง ที่ผลิตสำหรับเส้นผมโดยเฉพาะ มาติดกระเป๋าอยู่เสมอเผื่อฉุกเฉิน หรือใช้ที่มัดผมโดนัทที่มีผืนผ้าห่อหุ้มอยู่ด้านนอก ในการมัดผม แค่นี้ก็จะช่วยป้องกันปัญหาผมพันติดหนึบกับหนังสติ๊ก พาลให้ผมขาดวิ่น หรือต้องตัดผมเลยก็เป็นไปได้



4. คุณไม่ควร ใช้ผลิตภัณฑ์ผิด
อย่าเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เพียง เพราะแพ็กเกจที่สะสวย ดูดีมีสไตล์ การเลือกซื้อ ผลิตภัณฑ์ความงามทั้งผิวและผม นั้น ต้องเลือกที่คุณสมบัติเป็นหลัก โดยเลือกให้เหมาะกับ สภาพผิวและสภาพผมของเรา แต่ปัญหาอย่างหนึ่งที่พวกเรามักต้องเจอ คือ คำบรรยายสรรพคุณสุดเวอร์ และสับสนบนฉลาก ทำให้เราต้องเวียนหัวทุกครั้งที่ไปช้อปปิ้งด้วยตัวเอง ดังนั้นเพื่อให้แน่ใจว่า ผลิตภัณฑ์ที่คุณเลือกจะเหมาะกับเส้นผมของคุณ และได้ผลดีจริง ๆ เราขอแนะนำให้คุณสอบถาม จากช่างผมของคุณจะดีกว่า แต่ถ้าอยากทดลองให้รู้ด้วยตัวเอง ควรซื้อไซส์ทดลองมาใช้ในคราวแรก ถ้าใช้แล้วดี ค่อยลงทุนซื้อไซส์ใหญ่มาใช้ในคราวถัดไป

5. คุณไม่ควร รุนแรงกับผมเปียก
เชื่อได้เลยว่าใครที่ไหนก็ทำกันอย่างนี้ทั้งนั้นแหละ รีบ ๆ สระผม แล้วก็เอาผ้าขนหนู เช็ดถูอย่างเมามัน สางผมด้วยหวีเร็ว ๆ แล้วก็รีบออกจากบ้านไปเพื่อแข่งกับเวลา แต่ความจริงแล้วการหวีผม เมื่อผมเปียกนั้น นับเป็นการทำร้ายเส้นผมอย่างรุนแรงมาก แถมการเช็ดถูผมด้วยผ้าขนหนู ยังเป็นการทำให้เกล็ดผมเปิดออกอีก ส่งผลให้เส้นผมฟุ้งกระจาย ไร้ทิศทางจัดยังไงก็ดูไม่เข้าทรง วิธีที่ถูกต้องก็คือ ค่อย ๆ ใช้ผ้าขนหนูซับน้ำแล้วบีบเบา ๆ ให้ผมแห้งหมาด จากนั้นใช้หวีซี่ห่างสางผมออกจากกัน แค่นี้เส้นผมก็ยิ้มได้แล้ว



6. คุณไม่ควร โหมใช้ของร้อน
ความร้อนจากการใช้ไดร์เป่าผมและเครื่องรีดผมเป็นประจำนับเป็นอันตรายอย่างยิ่ง สำหรับเส้นผม และเห็นผลเร็วยิ่งกว่าสิ่งใด เส้นผมของคุณจะดูหมองในพริบตา แถมยังแห้งเสีย ไม่เข้าท่าได้อย่างเร็วทันใจ ถ้าเลี่ยงการไดร์ผมไม่ได้จริง ๆ พยายามรักษาระยะห่าง ประมาณ 1 ช่วงแขน ห่างจากศีรษะ เพื่อป้องกันไม่ให้เส้นผม รับความร้อนมากเกินไป ความร้อนยังนำพา ความชุ่มชื้นออกจากเส้นผมด้วย ดังนั้นคุณจึงควรใส่คอนดิชันเนอร์ แบบไม่ต้องล้างออก ลงบนเส้นผมทุกครั้งก่อนการใช้ความร้อน เพื่อป้องกันเส้นผมแห้งแตกปลายได้อีกทาง



7. คุณไม่ควร เลื่อนนัดช่างผม
คุณควรเข้าร้านทำผมเพื่อพบกับช่างทำผมเป็นประจำทุก ๆ 8-12 สัปดาห์ เพื่อให้ช่าง ช่วยเล็มปลายผมออก เพราะปลายผมมักจะอ่อนแอมากกว่าโคนผม การได้รับความร้อน หรือสารเคมีต่าง ๆ ก็จะทำลายปลายผม มากกว่าโคนผม การเล็มออกเป็นประจำ จะช่วยป้องกัน การเกิดผมแตกปลายได้เป็นอย่างดี แม้ว่าคุณจะกำลังไว้ผมยาวก็ไม่ควรหยุดเล็มผม เพียงแค่คุณบอกกับช่างผม ว่าคุณกำลังเลี้ยงผมยาว ช่างผมจะช่วยเล็มปลาย เพื่อรักษาทรงให้กับคุณ เพื่อให้ผมของคุณยังดูเป็นทรงสวย ไม่ดูโทรมเกินไป และยังช่วยรักษาสุขภาพผม ให้ดีอยู่เสมอด้วย



อ้างอิงจาก http://brightlives.th.88db.com/beauty/beauty_7hair.htm  และ นิตยสาร Hair ฉบับภาษาไทย

ดิฉันหวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์มากสำหรับผู้ที่ได้อ่านนะค่ะ เมื่อรู้สิ่งที่จะทำร้ายเส้นผมคุณแล้ว อย่าลืมดูแลเส้นผมด้วยนะค่ะ เพื่อเส้นผมที่สวยงาม จะได้อยู่กับเราไปนานๆค่ะ

วันอาทิตย์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2553

โครงสร้างของเส้นผม

สวัสดีค่ะ วันนี้ดิฉัน มีข้อมูลเกี่ยวกับโครงสร้างของเส้นผม เชื่อได้เลยค่ะ เพื่อนๆส่วนใหญ่คงไม่ทราบถึงโครงสร้างเส้นผมลึกเท่าที่คง ดิฉันเองก็เช่นกันค่ะ ดังนั้น ดิฉันจึงไปหาข้อมูลมาให้เพื่อนๆ ได้ทราบและอ่านกันนะค่ะ

โครงสร้างของเส้นผม
 
เส้นผมเป็นสิ่งไม่มีชีวิตประกอบด้วยโครงสร้างโปรตีนที่เรียกว่าเคราติน เส้นผมมี 3 ส่วนซึ่งมีหน้าที่แตกต่างกันดังนี้
1.เกล็ดผม Cuticle
          เกล็ดผมเป็นโปรตีนที่มีลักษณะซ้อนกันอยู่เป็นวงรอบเส้นผมคล้าย เกล็ดปลาซ้อนกันประมาณ 8-10 ชั้น เกล็ดผมไม่มีสี เป็นเกล็ดใสๆ โปร่งแสงช่วยปกกันการซึมผ่านของสิ่งสกปรกที่จะเข้าไปทำลายเส้นผม และยังปกป้องชั้นเนื้อผมไม่ให้สูญเสียความชุ่มชื้น,เม็ดสี รวมถึงน้ำมันตามธรรมชาติ ซึ่งช่วยให้ผมดูเป็นเงา เกล็ดผมจะเปิดก็ต่อเมื่อมีความร้อน ความชื้น ทั้งจากธรรมชาติและเคมีบ้างตัวเข้ามาทำปฏิกิริยากับเส้นผมเป็นที่สังเกตว่า ผมที่สุขภาพดีเกล็ดผมจะปิดและเรียงตัวกันดี ส่วนผมที่เริ่มแห้งเสียเกล็ดผมจะฉีกขาดและไม่สามารถเรียงตัวปิดได้ทำให้ เกล็ดผมไม่สามารถปกป้องความชุ่มชื้นภายในและทำให้แห้งเสียเพิ่มขึ้นหากขาด การบำรุง
2.เนื้อผม Cortex               
          เนื้อผมเป็นแหล่งรวมของเม็ดสีเมลานิน โปรตีน เคราติน และเส้นใยโปรตีนที่เกาะเกี่ยวกันกำหนดโครงสร้างตามธรรมชาติ ช่วยให้ผมมีความยืดหยุ่นแข็งแรง มีประมาณ 80% ของเส้นผม ดังนั้นการทำงานเคมีซึ่งต้องเปลี่ยนโครงสร้างและสีผม จึงต้องเข้ามาทำงานที่ชั้นนี้
3.แกนผม Medulla                
          แกนผมเกิดจากโปรตีน และไขมัน แกนผมไม่มีบทบาทในการทำงาน ส่วนมากจะพบในผมที่มีสภาพแข็งแรง และผมเส้นเล็กมักไม่มีแกนผม
 
 
หลักการวิเคราะห์โครงสร้างเส้นผม, สภาพเส้นผม, หนังศีรษะ

 
 1.โครงสร้างเส้นผม   คือลักษณะของเส้นผมธรรมชาติที่มีมาแต่กำเนิด โดยดูจากเส้นผมบริเวณโคน แบ่งออกเป็น
      -ผมเส้นใหญ่
      -ผมธรรมดา
      -ผมเส้นเล็ก

2.สภาพเส้นผม   คือลักษณะของเส้นผมที่ถูกเปลี่ยนแปลงโดยสภาพแวดล้อม หรือสารเคมีต่างๆ โดยดูจากช่วงความยาวของเส้นผมถึงปลายผม แบ่งออกเป็น
      -ผมธรรมดา
      -ผมแห้ง (แสงแดด/การไดร์ผม)
      -ผมผ่านสารเคมี (ดัด/ยืด/สี
)
3.สภาพหนังศีรษะ    คือลักษณะของผิวหนังบริเวณหนังศีรษะ โดยดูจากการแบ่งช่อผมเพื่อให้เห็นหนังศีรษะชัดเจน แบ่งออกเป็น
    
-หนังศีรษะแห้ง  จะเป็นขุยหรือสะเก็ดเล็กๆ
     -หนังศีรษะมัน  มีปริมาณน้ำมันจากหนังศีรษะมากผิดปกติ ผมจะแฉะเร็ว
     -หนังศีรษะเป็นรังแค เป็นขุย หรือเป็นแผ่น
     -หนังศีรษะแพ้ง่าย  เป็นผื่นแดงหรือตุ่มแดง
 
         วงจรชีวิตเส้นผมแบ่งออกเป็น 3 ระยะ
 
1.ระยะอะนาเจน (Anagen Phase)
                 เป็นระยะเวลางอกงามของเส้นผมซึ่งมีระยะเวลายาวนานประมาณ 2 ปี หรืออาจถึง 6 ปี (เช่นในเด็ก) เมื่อคนเราอายุมากขึ้น ระยะอะนาเจนนี้จะสั้นลงๆ ในระยะนี้ผมคนเราจะงอกเร็วประมาณ 1 ซ.ม.ต่อเดือน คนที่ไม่ตัดผมเลยตลอดชีวิตก็จะมีผมยาวได้ย่างมากก็ 36 ซ.ม.(ในคนสูงอายุ) ถึง 86 ซ.ม.(ในคนรุ่นๆ)
2.ระยะคะทาเจน (Catagen Phase)
                 เป็นระยะหยุดงอก เส้นผมขาดอาหารมาเลี้ยง ณ ระยะนี้ต่อมผมจะหดเล็กลง แล้วหยุดทำงานนานประมาณ 3 สัปดาห์กว่าๆ

3.ระยะเทโลเจน (Telogen Phase)
                เป็นระยะพักซึ่งกินเวลาประมาณ 3 เดือน ในระยะนี้ผมจะหลุดร่วงออกไปเป็นปกติ ประมาณร้อยละ 10 ขงต่อมผม (มีประมาณ 100,000 ต่อม) จะอยู่ในระยะนี้ในทุกขณะของชีวิตของคนเรา ผมของคนเราจึงร่วงไม่พร้อมกัน เนื่องจากผมของคนเราผลัดกันร่วง ผลัดกันงอกใหม่นั้นเอง
อ้างอิงจาก http://littlebee61.exteen.com/20090719/entry-5


วันศุกร์ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

สูตรบำรุงผมง้าย....ง่าย

สวัสดีค่ะวันนี้ดิฉันมีสูตรบำรุงเส้นผมมาฝากกันนะค่ะ มีหลากหลายวิธีค่ะ ให้เลือกบำรุง สำหรับดิฉันเคยบำรุงอยู่ 2 วิธีค่ะ สูตรน้ำผึ้ง สูตรนี้ทำให้เส้นผมนุ่มมากขึ้นค่ะ และสูตรแชมพู สูตรนี้จะทำให้เส้นผมดูสุขภาพดี และนุ่มขึ้นค่ะ สำหรับเพื่อนสามารถลองได้ทุกสูตรค่ะ ไม่มีผลเสียกับเส้นผมค่ะ (แต่ขึ้นอยู่กับสภาพหนังศีรษะแต่ละคนด้วยนะค่ะ)

วิธีบำรุงเส้นผม



1. วิธีบำรุงเส้นผม สูตรมะนาว

น้ำมะนาว นำมาผสมกับน้ำที่ใช้สระผม ทำให้ผมเป็นประกาย และมีน้ำหนัก ขจัดรังแคได้อีกด้วยค่ะ


2. วิธีบำรุงเส้นผม สูตรน้ำผึ้ง


น้ำผึ้ง นอกจากจะช่วยให้ผมเป็นประกายแล้ว ยังช่วยบำรุงหนังศีรษะได้เป็นอย่างดี ผสมน้ำผึ้ง 3 ช้อนชา กับ น้ำ 1 ถ้วย ใช้สระผม แล้วนวดให้ทั่วด้วยปลายนิ้ว ล้างออก


3. วิธีบำรุงเส้นผม สูตรกากใบชา


กากของใบชาที่คุณชงดื่มแล้ว อย่าทิ้งเพราะว่ากากของใบชายังสามารถใช้ประโยชน์ได้กับเส้นผมของคุณ  นำกากใบชาต้มในเดือด ทิ้งไว้ให้เย็น กรองเอาเฉพาะน้ำของกากใบชามาใช้สระผม ช่วยให้เส้นผมเป็นประกายเงางามได้


4. วิธีบำรุงเส้นผม สูตรกาแฟเอสเปรสโซ

สำหรับผู้ที่ต้องการเน้นประกายให้แก่เส้นผม ให้ใช้กาแฟเอสเปรสโซ 1 ถ้วย ทิ้งไว้ให้เย็น ใช้หมักผมตอนที่ผมยังแห้งอยู่ หมักไว้ 20 นาที แล้วล้างออก


5. วิธีบำรุงเส้นผม สูตรแชมพู

ใช้ไข่ 1 ฟอง น้ำมันมะกอก 1 ช้อนชา น้ำมะนาว 1 ช้อนชา น้ำเปล่าครึ่งถ้วย หรือน้ำชาสมุนไพร และ essential oils 5 หยด ผสมทั้งหมดให้เข้ากันแล้วใช้สระผม ทำให้ผมเป็นประกายอย่างเงางาม


วันพฤหัสบดีที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

วิธีการดูแลผมสวย

วันนี้ดิฉันมีวิธีดูแลผมสวย ให้เหมาะกับสภาพเส้นผมวิธีดูแลผมสวย มาฝากกันนะค่ะถึงแม้ว่าแต่ละคนจะมีสภาพเส้นผมที่ไหมเหมือนกันบางคนก็ผมตรงสวย บางคนก็ผมหยกศก บางคนก็ผมหนาฟู หรือบางคนก็มีผมบางแห้งแตกปลายไร้น้ำหนัก สำหรับดิฉันเองเป็นเส้นผมหนาฟูนะค่ะ สิ่งเหล่านี้ อาจสร้างกังวลใจให้กับพวกคุณได้ เพราะเส้นผมก็เปรียบเสมือนหน้าต่างของหน้าเช่นเดียวกัน ฉะนั้นวันนี้เรานำทางออกมาให้กับคุณแล้วค่ะด้วย วิธีดูแลผมสวย ให้เหมาะกับสภาพเส้นผมค่ะ



ผมหยักศก
สำหรับสาวที่มีผมหยักศก ซึ่งทำให้หน้าดูเข้มและมีอายุขึ้นวิธีการทำให้กลับมามีบุคลิกดีแก้ไขโดยการยืดผมให้ตรงด้วยวิธี reborning (ยืดผมถาวร) วิธีนี้จะช่วยให้ผมตรงดูดี หรือจะซอยผมช่วยด้วยก็ได้เพื่อเปลี่ยนบุคลิกของตัวเราเป็นอีกแบบส่วนคุณผู้หญิงที่มีอายุหน่อยผมอาจค่อนข้างดูแลลำบากและไม่ค่อยเป็นทรง ถ้าปล่อยไปผมก็จะดูฟูเหมือนเพิ่งตื่นนอนให้ใช้การดัดผมเข้าช่วยจะทำให้เส้นผมมีทิศทางไม่ฟูฟ่องและสามารถจัดทรงได้ง่ายด้วย






ผมหนาเส้นใหญ่และฟูมาก
าวที่มีลักษณะผมแบบนี้ มักจะขาดความมั่นใจยิ่งถ้าโดนแซวว่าผมหนาบ้างผมฟูเป็นสิงโตบ้างแถมจัดแต่งทรงก็ลำบากเหมือนคนที่ไม่ได้ดูแลผมตัวเองเลย ในกรณีนี้หากอยากแก้ไขมี 2 ทาง ทางแรกสำหรับสาวที่ต้องการเปลี่ยนบุคลิกไปเลยให้ใช้การตัดผมทิ้งแล้วซอยผมออกแบบสไลด์โดยใช้มีดโกนหรือกรรไกรฟัน เพื่อให้ผมที่ดูหนาและฟูบางลงซึ่งต้องอาศัยช่างที่มีความชำนาญ ส่วนสาวที่ยังต้องการไว้ผมยาวให้ซอยสไลด์เหมือนกัน แต่ให้ซอยเฉพาะผมด้านในเพื่อลดความหนาของผมลง ซึ่งผมจะยังคงความยาวอยู่


ผมเส้นเล็กและไม่มีน้ำหนัก
ส่วนสาว ๆ ที่มีปัญหาผมขาดน้ำหนักและผมเส้นเล็กวันไหนที่ต้องเจอลมพัดแรง ๆ ผมจะฟูดูไม่ได้เลย แก้ไขด้วยการบำรุงให้สุขภาพผม
ดีขึ้น อาจจะใช้วิธีการหมักด้วยโคลน อบสมุนไพร ทำสปาผม เพื่อให้สารอาหารต่าง ๆ แก่เส้นผม ช่วยให้ผมมีน้ำหนักขึ้นหรืออาจจะทำการเคลือบสีผมหรือเคลือบเงาด้วยก็ได้ ถ้าเป็นสาวผมยาวแล้วอยากจะตัดผมแนะนำให้ซอยเฉพาะผมด้านหน้าเท่านั้น และไม่ควรซอยไล่ให้บางส่วนผมด้านหลังปล่อยให้ยาวเพื่อรักษาความหนาของเส้นผมไว้ สิ่งสำคัญของสาวผมบางและไม่มีน้ำหนักก็คือให้ทำการบำรุงผมเพื่อให้ผมมีสุขภาพดี




อ้างอิงจากhttp://www.n3k.in.th

สำหรับการดูแลเส้นผมของเรานั้นสำคัญมากนะค่ะ ยิ่งถ้าผมสวยก็อยากจะปล่อยผมให้คนอื่นดู นะค่ะ ดังนั้นข้อมูลนี้คงจะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆ ที่ต้องการบำรุงผม อย่าลืมดูแลเส้นผมให้สวยอยู่ตลอดนะค่ะ

วันอังคารที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ความเชื่อ.....ที่ไม่จริง เกี่ยวกับเส้นผม.....

สวัสดีค่ะ หลายๆคนอาจจะได้ยินความเชื่อหรือความเข้าใจผิดเกี่ยวกับผมมาแบบผิดๆรวมทั้งดิฉันด้วยที่เข้าใจมาแบบผิดๆ แม้กระทั่งช่างผมคนดังก็ยังเข้าผิดกันได้ แต่นี่เป็นความจริงทางวิทยาศาสตร์ที่พิสูจน์กันมาแล้ว ดิฉันจึงไปหาข้อมูลมาเพื่อให้เพื่อนๆ ได้ทราบความจริงเกี่ยวกับความเชื่อเรื่องเส้นผมค่ะ มาดูกันเลยค่ะ

 
1. การตัดผมทำให้ผมแข็งแรงขึ้น หรืองอกใหม่ได้เร็วขึ้น


มารู้กันเลยว่าไม่จริง ผมไม่ใช่สนามหญ้าจะได้งอกหลังตัดใหม่แล้ว  แม้จะไม่รู้แน่ชัดว่าทำไมถึงเชื่อกันแบบนี้  แต่คาดว่ามาจากการสังเกตเห็นหนวดเคราของผู้ชายที่ขึ้นได้เร็ว ซึ่งมีลักษณะไม่เหมือนกับขนบนหน้าและผมของคุณ ผลของการตัดผมให้สั้นก็คือ คุณได้ผมสั้นลงเท่านั้น ส่วนการงอกของผมจะงอกได้เกือบครึ่งนิ้วต่อเดือน

2. ผมแตกปลายสามารถซ่อมแซมได้

ข่าวร้ายแต่จริงก็คือ หากมีผมแตกปลายอย่าเสียเวลาซ่อมแซม แต่ให้ตัดผมแตกปลายออกทันที ไม่เช่นนั้นจะแตกมากขึ้นหรือผมเสียมากขึ้น

3. การแปรงผมดีต่อผม

อันนี้แปลก เพราะใคร ๆ ก็ว่าแปรงผมเป็นเรื่องดี แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านผมกลับบอกว่าการแปรงผมเป็นเพียงการตกแต่งทรงผมให้ดูดีเท่านั้น ไม่ใช่ทำให้ผมสวยงามมากขึ้นแต่อย่างใด

4. หมวกรัด ๆ จะทำให้ศีรษะล้าน

เดาว่าข่าวลือนี้คงมาจากค่ายทหารเพราะทหารจะต้องใส่หมวกขณะปฎิบัติหน้าที่จนหัวล้าน แต่ความจริงก็คือ การสวมหมวกนาน ๆ ทำให้ผมเสียหรือแตกปลาย

5. ผมอาจกลายเป็นสีเทาหรือสีขาวภายในคืนเดีย

ผู้เชี่ยวชาญยืนยันว่าความเชื่อนี้มีแต่ในนิยายเท่านั้น เพราะการเปลี่ยนสีผมต้องใช้ระยะเวลานานพอสมควร ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ภายในคืนเดียว

6. รังแคเกิดจากหนังศีรษะแห้ง

รังแคและหนังศีรษะแห้งไม่มีความเกี่ยวข้องกันแต่อย่างใด แต่การใช้แชมพูและครีมนวดผมที่เหมาะสมจะสามารถดูแลหนังศีรษะที่แห้งให้หยุดลอกออกมาได้ 

อ้างอิงจาก health.spiceday.com/
เป็นยังไงบ้างค่ะ ความเชื่อหลากหลายที่เราเข้าใจผิดกัน ดิฉันคงหวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆนะค่ะ ขอบคุณค่ะ

Hair care products.....

ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม ก็มีมากมาย หาซื้อได้ไม่ยากนะค่ะ และมีกี่ชนิดบ้าง คุณใช้ครบหรือยัง แต่ละตัวจะดูแลเส้นผมต่างกันไป ไปดูกันเลยค่ะ ว่ามีผลิตภัณฑ์อะไรบ้าง

ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม
แชมพู มีคุณสมบัติในการชำระล้างสิ่งสกปรกต่างๆ บนเส้นผม และหนังศีรษะ เช่นฝุ่น คราบน้ำมัน และเครื่องประทินผมต่างๆ เช่น สเปรย์ผม ตลอดจนผิวหนังที่ตายแล้ว และหลุดออกมาจากหนังศีรษะโดยไม่เป็นอันตรายต่อเส้นผม และหนังศีรษะ
 


ครีมบำรุงผม หรือแฮร์คอนดิชั่นเนอร์ 

เมื่อแชมพูทำความสะอาด โดยขจัดน้ำมัน และคราบต่างๆออกไปจากเส้นผมแล้ว ปลอดเยื่อของผมหรือคิวติเคิลจะอ้าออกบ้างไม่มากก็น้อยเราจึงใช้ครีมบำรุงหรือแฮร์คอนดิชั่นเนอร์ ใส่ตามหลังการสระผมทุกครั้ง เพื่อช่วยให้คิวติเคิลนอนราบลงดังเดิมจะทำให้ผมหวีง่ายและเป็นเงางามขึ้นอีกมาก เป็นการช่วยไม่ให้ผมหักหรือแตกปลายได้ง่าย



 ครีมนวดผม 

ทำหน้าที่บำรุงเส้นผม และหนังศีรษะ ทุกวันนี้จะมีครีมบำรุงรากผม ซึ่งใช้นวดบนหนังศีรษะ และอบตามด้วนความร้อนแสง หรือไอน้ำ ให้มีเนื้อข้นกว้าครีมบำรุงเส้นผม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นครีมเหลวการบำรุงรากผมซึ่งเป็นวิธีที่ดีมาก ควรจะทำให้เป็นประจำอย่างน้อยเดือนละครั้ง โดยการนวดที่หนังศีรษะ โลหิตจะไหลเวียนดีขึ้น ทำให้หนังศีรษะหายตึง หรือแน่นซึ่งเป็นเหตุที่ทำให้ผมร่วงได้ง่าย และไม่เจริญงอกงามเท่าที่ควร การนวดและอบครีมจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งไม่ควรมองข้ามอย่างเด็ดขาด

เยล หรือ เจล บำรุงผม

คือเครื่องประทินผมชนิดหนึ่งที่มีความโปร่งแสงแต่ข้นคล้ายๆ เจลลี่ที่เรารับประทานเป็นของหวาน ซึ่งเยลหรือเจล นี้เป็นการที่ช่วยผมให้เข้ารูปได้คงทนทำให้ผมมีเนื้อมีน้ำหนักขึ้น  ซึ่งก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ในการแต่งผมให้ดูดี โดยเฉพาะผมแบบที่ต้านแรงถ่วงของโลกตั้งแต่โคนถึงปลาย
 

วิตามินบำรุงผม (Hair Tonic)   


ลักษณะส่วนใหญ่จะเป็นน้ำใส ควรใส่เป็นขั้นตอนสุดท้ายก่อนที่จะเซ็ทผม โดยแสกผมออกเป็นแนวแล้วหยดวิตามินลงบนหนังศีรษะให้ทั่ว แล้วนวดคลึงเบาๆ และไม่ต้องสระออก ถ้าเป็นวิตามินสมุนไพรสด อาจใช้วิธีชุบสำลีนวดถูหนังศีรษะ ประเภทหลังนี้ส่วนใหญ่จะมีลักษณะเป็นน้ำ ที่มีตัวยาขุ่นข้น ใช้ทั้งแก้และกันผมร่วง และรังแคที่ได้ผลอีกวิธีหนึ่ง ทำให้หนังศีรษะรู้สึกสดชื่น และหายคัน 

วันจันทร์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

About'hair เกี่ยวกับเส้นผม .....


สวัสดีค่ะ .....
เส้นผมของคนเรานั้นเป็นเซลล์ของร่างกายที่ตายแล้ว แต่ที่ยังเห็นคงสภาพอยู่ได้นานก็เพราะมันมีความแข็งแรงของเซลล์อยู่ เส้นผมนั้นไม่จำเป็นต้องให้การบำรุงด้วยสารอาหารจากแชมพู 
 แชมพูมีหน้าที่เพียงแค่ทำความสะอาดเส้นผม ซึ่งหมักหมมจากเหงื่อ ฝุ่น ควันต่างๆ นั่นเอง  อีกหนึ่งวิธีที่สามารถช่วยให้เส้นผมของคุณไม่ยุ่งหรือพันกัน ก็คือการหวี ซึ่งยังช่วยจัดรูปทรงให้กับผมอีกด้วย บางครั้งยังมีความเชื่อกันด้วยว่า ถ้าได้แปรงผมวันละหลายๆ ครั้ง จะทำให้ผมสวยเงางาม ความจริงก็คือ การแปรงผมจะทำให้น้ำมันธรรมชาติที่เคลือบอยู่บนเส้นผมได้กระจายไปทั่ว ผมจึงดูเงางาม  ผมของคนเราก็มีหลายแบบ หยิก เหยียดตรง เส้นเล็ก ซอยสั้น หยิกยาว ผมหนา ฯลฯ ต่างกันไปตามพันธุกรรมหรือการจัดแต่งตามแฟชั่น
อ้างอิงจากwww.lazyleo.com/
ส้นผม ไม่ว่ายาวหรือสั้น ล้วนมีส่วนช่วยทำให้บุคลิกภาพเราดีขึ้น 
หากเส้นผม มีสุขภาพดีเงางามไม่แตกปลาย บุคลิกของเราก้อดีขึ้นด้วย
แต่หากไม่เป็นเช่นนั้น ให้เรามีส่วนช่วยในการปรึกษาด้านเส้นผมของคุณค่ะ

วันนี้ ดิฉันมีข้อมูลดีดีเรื่องเส้นผมมาบอกกันนะค่ะเป็นการดูลักษณะเส้นผมของเราก่อนว่าเส้นผมของคุณมีลักษณะแบบไหน จะได้บำรุงรักษาถูกวิธีไงค่ะ สำหรับดิฉัน ดิฉันมีเส้นผมแบบ หยักโศก เล็กน้อยค่ะ แล้วของคุณเป็นยังไงค่ะ มาดูกันเลยค่ะ

 
เริ่มจากการเรียนรู้เรื่องลักษณะของเส้นผม


1.เส้นผมธรรมดา

2.เส้นผมแห้งแตกปลาย

3.เส้นผมแข็งแรง

4.เส้นผมธรรมดามีรังแค

5.เส้นผมนิ่มมัน

6.เส้นผมหยาบกระด้าง



     เส้นผมธรรมดา


เส้นผมประเภทนี้ไม่ค่อยจะมีปัญหามากนัก จะต้องใช้แชมพูและครีมนวดแบบอ่อนๆ สระผมสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ให้นวดศีรษะพอประมาณ แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น




          เส้นผมนิ่มมัน







ควรเลือกใช้แชมพูจำพวกสมุนไพรเช่นกัน แต่ไม่ใช้ครีมนวดผม หันไปใช้น้ำมันมะกรูด หรือน้ำมะนาวแทน คือ หลังจากสระแชมพูแล้ว ใช้น้ำมะกรูด หรือน้ำมะนาว 3-4 ช้อนโต๊ะ ลูบไล้ให้ทั่วศีรษะทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่นให้สะอาด และล้างด้วยน้ำเย็นอีกคั้งเพื่อช่วยปิดรูขุมขนที่ผลิตน้ำมันควรสระประมาณสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง 
 
เส้นผมหยาบกระด้าง
ควรใช้แชมพูคู่กับครีมนวดผมสระทุกครั้ง เวลาสระครีมแชมพูควรจะนวดเส้นผมด้วยครีมนวดและทิ้งไว้ 5-7 นาที แล้วจึงล้างออกด้วยน้ำอุ่น ไม่ควรสระด้วยน้ำเย็น
 เพราะน้ำเย็นจะล้างผมไม่สะอาดแล้วยังทำให้เส้นผมแข็ง จึงควรอบไอน้ำช่วย
                     วิเคราะห์เส้นผมอย่างแม่นยำ







ลักษณะของเส้นผม หมายถึงเนื้อผมชนิดต่างๆ เช่นผมเส้นเล็ก เส้นใหญ่ ผมแข็ง ผมนุ่ม ผมฟู ฯลฯน เพราะว่า เนื้อของเส้นผมบางชนิดมีความหนา และความบางที่แตกต่างกัน ซึ่งมีผลของการกำหนดรูปแบบ หรือทรงไม่ได้ตามต้องการ 

ด้วยเหตุนี้เองลักษณะเนื้อของเส้นผม จึงมีบทบาทในการตัดสินใจตั้งแต่ การเลือกใช้แชมพู,วีการตัดซอย,วิธีการดัด,การย้อม รวมทั้งการบำรุงดูแลรักษาต่างๆอีกด้วย

 ผมสวยแบบธรรมชาติ
 
จะมีลักษณะเส้นผมที่ไม่หยาบกระด้างไม่อ่อนนิ่มจนเกินไป เส้นขนาดพอดีไม่หยิกแต่มีน้ำหนักสปริงดีผมที่อยู่ในเกณฑ์สปริงดีนั้น จะต้องยืดได้ 1 ใน 5 เมื่อถูกดึงในขณะที่ผมแห้งสามารถหดตัว กลับเข้าที่เดิมได้โดยไม่ขาด ผมชนิดนี้จะเป็นผมที่เซ็ทแล้วอยู่ทรง และทนดัดง่าย อีกทั้งยังดูเงาสวยงาม

 ผมเส้นละเอียด 
คือ ผมที่มีเส้นเล็ก แต่ก็ไม่ได้หมายความถึงจำนวนผมว่าจะมีน้อยเสมอไปคนที่มีผมเส้นเล็กอาจจะมีผมหนา เพียงแต่มีลักษณะเส้นละเอียดดูเหมือนบาง ปัญหาของคนที่มีเส้นผมเล็กละเอียดอยู่ที่การเซ็ทแล้วไม่ทน ดัดยาก เพราะถ้าดัดอ่อนผมก็ไม่อยู่ทรง หรือถ้าดัดแก่ไปก็จะฟูฝอย จะให้เหมือนกับเส้นผมปกติธรรมดา หรือผมเส้นใหญ่นั้นจึงทำได้ยากโดยปกติแม้ว่าไม่ได้ดัดก็จะดูเบากระจากง่ายไม่อยู่ทรง

 ผมเส้นหยาบ 
คือ ผมที่มีลักษณะเส้นใหญ่ สัมผัสได้ถึงความแข็งดูไม่อ่อนนุ่ม ผมหยาบบางประเภทไม่มีสปริง หรือความยืดหยุ่นปรากฏอยู่เลย  ทำให้ตกแต่งจัดรูปทรงบางทรงยากพอควร แต่ผมประเภทนี้เหมาะที่สุดสำหรับ การเซ็ทเพราะอยู่ทนดี ไม่ว่าจะเป็นการเซ็ทด้วยโรลม้วนหรือการโบว์ไดร์ ผมชนิดนี้มักจะไม่มีความเงา จึงต้องหมั่นนวดครีมบำรุงผมอยู่เสมอ และมีจุดน่าสังเกตว่าคนที่มีเส้นผมหยาบจะหงอกเร็วกว่าคนที่มีผมเส้นละเอียด เป็นเหตุให้ต้องโกรกต้องย้อมผมก่อนเวลากำหนด

 ผมเส้นหยิก 
คือ ผมชนิดที่จัดว่าเป็นสุดยอดของผมที่ดื้อ เพราะเป็นผมที่มีสปริงมากจนเกินต้องการ แต่ก็แบ่งออกเป็นหลากหลายชนิด เช่นหยิกน้อย,หยิกปานกลาง,หยิกมาก และหยิกมากจนเป็นฝอยการตัดซอย ผมหยิกจะยาก ง่าย ตามชนิดความหยิกของผม

ผมเส้นเหยียด 
คือ ผมลักษณะนี้ส่วนใหญ่จำเป็น ต้องเลือกทรงที่ตัดซอยให้เสมอกัน และนิยมการดัดอ่อนๆเพื่อช่วยในการเซ็ทหรือโบว์ไดร์ให้อยู่ทนประเภทนี้ยังพอที่จะสามารถเปลี่ยนทรงได้ง่ายกว่าประเภทที่หยิกมาก

ผมบาง 

คือ ลักษณะของคนที่มีผมน้อย ซึ่งอาจจะมีลักษณะเส้นผมโต หรือเส้นเล็กละเอียดก็ได้แต่ส่วนมากจะพบว่ามีเส้นผมละเอียดอ่อนและไม่ค่อยมีน้ำหนักที่จะสามารถจัดแต่งในบางทรงได้ การตัดซอย,การดัด หรือเซ็ทคนผมบางให้ดูหนาขึ้นนั้น จัดได้ว่าเป็นเทคนิคที่ยากสำหรับช่างผมประเภทหนึ่





อ้างอิงจาก www.handbtoday.com