วันอาทิตย์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

การอบไอน้ำเส้นผม.........ด้วยตัวเอง

  • สวัสดีค่ะ วันนี้ดิฉันจะมา แนะนำเคล็ดลับดูแลผมสวยด้วยการอบไอน้ำด้วยตัวเอง สำหรับใครที่ไม่อยาก เสียเงินเข้าร้านเสริมสวย การอบไอน้ำสามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยตนเอง ดังนี้ค่ะ






  • 1.นำครีมอบไอน้ำ คอนดิชั่นเนอร์แบบเข้มข้น หรือเฮนน่ามาหมักผมให้ทั่ว



               











    2.นำผ้าขนหนูมาชุบน้ำอุ่นหมาดๆ แล้วนำมาพันรอบศีรษะปิดผมไว้

     

       

    3.ใช้ไดร์เป่าผมด้วยความร้อนสูงสุด เป่าให้ทั่ว นานประมาณ 10-30 นาที

    เพียงแค่นี้ผมคุณก็จะนุ่มสลวย สวยเหมือนอบไอน้ำในร้านเสริมสวยไม่มีผิดเลยค่ะ

                                                    

     







    สำหรับดิฉัน บางครั้งก็อบไอน้ำ ด้วยตัวเองที่บ้านนะค่ะ สำหรับเพื่อนที่ไม่อยากเสียเงินเข้าร้านเสริมสวย ลองใช้วิธีนี้ดูนะค่ะ

    วันจันทร์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2554

    การอบไอน้ำ เส้นผม....

    หลายๆคนนะค่ะ ก็ชอบอบไอน้ำเส้นผม เพราะเชื่อว่าการอบไอน้ำ เป็นการบำรุงเส้นผมอย่างหนึ่ง ดิฉันเองเหมือนกัน ที่ชอบอบไอน้ำ เพราะทำให้เส้นผมตรง อีกทั้งยังนุ่นด้วย แต่คุณรู้ไหมค่ะ ว่าการอบไอน้ำ มีกี่รูปแบบ บางคน ไปอาบไอน้ำที่ร้าน ก็ไม่ได้บอกทางร้านว่าอบแบบไหน วันนี้ดิฉันจึงยกตัวอย่าง วิธิการอบไอน้ำ 3 แบบ มาดูกันค่ะ



    1. การอบไอน้ำ แบบโปรตีนไข่
              การอบไอน้ำแบบโปรตีนไข่ จะเป็นการอบไอน้ำแบบธรรมดา โดยการใช้ครีมหมัก ผมผสมโปรตีนไข่ วิธีนี้จะราคาถูกหน่อย








    2. การอบไอน้ำ แบบทำสปาเส้นผม
               การอบไอน้ำแบบทำสปาเส้นผมนี้ คือการเคลือบเส้นผม และยังทำให้ผมนุ่นลื่น บางร้านอาจใช้ครีมหมักผม ของ ลอลีอัล วิธีนี้จะราคาขึ้นมาอีกหน่อย






    3. ไอน้ำ แบบเซรั่ม
              การอบไอน้ำแบบเซรั่ม เป็นการอบไอน้ำ ที่มีราคาแพงสุดใน 3 วิธีนี้ เพราะเป็นการอบไอน้ำ แบบบำรุงล้ำลึก เข้าไปในเส้นผม บำรุงจากภายในเลย








    สำหรับการอบไอน้ำ วันนี้ดิฉันก็ยกตัวอย่างมา ซัก 3 แบบ นะค่ะ แล้วแต่ใครจะเลือกแบบไหนก็ได้ ค่ะ สำหรับ คนที่ต้องการยืดผมแต่ก็ยังเสียดายผม เพราะการยืด จะทำให้เส้นผมเสีย ดังนั้น การอบไอน้ำบ่อยๆก็ จะเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ถ้าหากอบไอน้ำบ่อยๆ ก็จะทำให้เส้นผมปรับสภาพอาจกลายเป็นผมตรงได้ ค่ะ

    สำหรับดิฉันมัก เลือกการอบไอน้ำแบบ ทำสปาเส้นผม เพราะเส้นผมจะนุ่นมาก ค่ะ

    วันจันทร์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2554

    การดูแลเส้นผมด้วย"พืชผัก สวนครัว"

    สวัสดีค่ะ ใครรู้บ้างค่ะว่าพืชผัก สวนครัวนอกจากจะนำมาทำอาหารแล้ว ยังสามารถนำมาใช้ประโยชน์อย่างอื่นได้อีกนะค่ะ วันนี้ดิฉันจะมาแนะนำ เรื่องการดูแลเส้นผมด้วน "พืชผัก สวนครัว" ค่ะ






    ชะอม
    ถ้าผมขาดชีวิตชีวา เจอลมแรงยังแทบไม่กระดิก แนะนำว่าให้ใช้สูตรชะอม โดยใช้ใบชะอมประมาณ 1 กำมือ นำมาต้มกับน้ำสะอาด 3 ถ้วยจนเดือด กรองเอาแต่น้ำเขียว ๆ นำไปวางไว้ให้เย็น หลังจากสระผมสะอาดแล้ว นำผ้าขนหนูชุบน้ำชะอมพอหมาด ๆ เช็ดถูให้ทั่วศีรษะ จะช่วยคืนสภาพเส้นผมให้ดีขึ้นได้ และยังช่วยไม่ให้ผมแตกปลายอีกด้วย


    ตะไคร้
    ใช้แก้ปัญหาผมแตกปลายได้ผลดีทีเดียว ให้ใช้ตะไคร้ 2-3 ต้น นำมาตำให้ละเอียด กรองเอาแต่น้ำ หลังจากสระผมสะอาดดีแล้วนำน้ำตะไคร้มาชะโลมและนวดให้ทั่วศีรษะทิ้งไว้สัก 10 นาที จึงล้างออก ทำกันเป็นประจำสัก 2 เดือน


    อ้างอิงจาก http://www.tlcthai.com/

    สำหรับดิฉันนะค่ะ ดิฉันเคยใช้แต่ใบมะกรูด แต่คราวนี้ดิฉันต้องลองใช้ ชะอม กับตะใคร้บ้าง แล้วคุณละค่ะ เคยใช้พืชผักสวนครัวที่หาได้ง่าย และราคาถูก ดูแลสุขภาพผมคุณบ้างไหมค่ะ

    วันจันทร์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2554

    การดูแลเส้นผมจากการยืด

    ทุกวันนี้นะค่ะ คุณคงจะเห็นว่า ผู้หญิงมีการยืดผมมากขึ้นนะค่ะ เพื่อความสวยงาม อีกทั้งยังสามารถเสริมบุคลิกภาพได้อีกด้วย แต่การดูแลเส้นผมหลังจากการยืดนั้นทำอย่างไร มาดูกันค่ะ
     1.ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเส้นผม
           ในการทำความสะอาดเส้นผมที่ผ่านการยืดมาควรเลือก แชมพู ที่มีความอ่อนโยนและถนอมเส้นผมเป็นพิเศษไม่ควรเลือกใช้ชมพูที่มีค่าความเป็นด่างสูง(แชมพูในการถนอมผมยืดผมเปิดมาก(ซึ่งมีหน้าที่ในการเก็บรักษาสารอาหารและความชุมชื้นได้ เนื่องจากในขั้นตอนการยืด มีคุณสมบัติทำให้เกล็ดผมเปิดแล้ว) เมื่อเกร็ดผมเปิดมากเส้นผมจะไม่สามารถเก็บรักษาสารอาหารและความชุมชื้นได้ ส่งผลให้ผมแห้ง ชี้ฟูและขาดน้ำหนัก

        2.ทรีตเม้นต์บำรุงเส้นผม

        ทรีตเม้นต์เป็นผลิตภัณฑ์อีกชนิดหนึ่งที่มีความจำเป็นในการบำรุงเส้นผมที่ผ่านการยืด ทรีตเม้นต์ที่ดีควรมีคุณสมบัติในการช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นและสารอาหารที่จำเป็นให้กับเส้นผม ปัจจุบันมีตั้งแต่ทรีตเม้นต์ ซูเปอร์ทรีตเม้นต์และครีมบำรุงเส้นผมให้เลือกมากมายหลายชนิด จนบางครั้งไม่สามารถตัดสินใจได้ว่าควรเลือกทรีตเม้นต์ตัวไหนดี วิธีง่ายๆ ในการเลือกทรีตเม้นต์ให้พิจารณาจากส่วนผสมเป็นหลัก(เรื่องกลิ่นเป็นรอง)ซึ่งสามารถสังเกตได้จากฉลากข้างขวด(ถ้าไม่มีฉลากอย่าเสี่ยง)โดยทั่วไปทรีตเม้นต์จะมีส่วนผสมของสารที่ให้ความชุ่มชื้นกับเส้นผม แต่สิ่งที่สำคัญและขาดไม่ได้สำหรับทรีตเม้นต์ที่ดี คือ มีทั้งโปรตีนที่สกัดจากพืชและโปรตีนที่สกัดจากสัตว์แล้วแต่ความต้องการ

           แต่หากเป็นโปรตีนที่มีลักษณะเป็นโมเลกุลขนาดเล็กก็จะยิ่งดีเพราะมันสามารถซึมเข้าสู่เส้นผมเพื่อซ่อมแซมและช่วยชดเชยโปรตีนที่ขาดหายไปได้อย่างล่ำลึกกว่าหากมีเวลาก็อาจเลือกทรีตเม้นต์ชนิดที่หมักไว้แล้วล้างออก ซึ่งในปัจจุบันเป็นเรื่องที่น่ายินดีว่ามีทรีตเม้นต์ผลิตออกมาโดยเฉพาะ ถ้าเป็นเซรั่มสีขาวบรรจุในหลอดแก้ววางขายตามร้านขายอุปกรณ์เสริมสวยลองไปถามดู แต่ถ้าหากคุณไม่มีเวลานั่งหมักทรีตเมนต์ก็ไม่ต้องเสียใจเพราะปัจจุบันทรีตเม้นต์ชนิดที่ใช้แล้วไม่ต้องล้างออกก็มีวางขาย เพียงแต่ให้คุณสังเกตคุณสมบัติและส่วนประกอบสักนิดคุณก็จะได้ทรีตเม้นต์ที่ดีกลับไป
       

    3.เซรั่มปิดเกล็ดผม
            เพื่อปกป้องเส้นผมจากมลภาวะและความร้อนจากไดร์เป่าผม สิ่งที่ขาดไม่ได้หลังการทำทรีตเมนต์ทุกครั้งคือเซรั่มทีมีคุณสมบัติช่วยปิดเกล็ดผม อย่าลืมน่ะครับหลังจากที่คุณจ่ายเงินในการทำทรีตเมนต์ราคาแพงแสนแพงแล้ว คุณจะต้องใช้เซรั่มในการปิดเกร็ดผม เพื่อให้สารอาหารและความชุมชื้นอยู่ในเส้นผมได้นานขึ้นโดยเฉพาะที่ผลิตจากสารสกัดจากเมล็ดลินินจะช่วยทำให้เส้นผมเงางามยิ่งขึ้นและที่สำคัญไม่ทิ้งสารตกค้างบนเส้นผมอีกด้วย รู้อย่างนี้แล้วหากไม่อยากจ่ายเงินทำทรีตเมนต์บ่อยๆ ก็อย่าลืมหาเซรั่มดีๆ สักขวดมาปิดเกล็ดผมนะค่ะ
    อ้างอิงจาก http://women.thaiza.com/

    วันอังคารที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2554

    ล้างสารพิษให้เส้นผม

    สวัสดีค่ะ สำหรับทุกๆวันของหลายๆคน ต้องเจอกับปัญหามากมายที่ทำให้เส้นผมเสีย เช่น ฝุ่น ควัน ความร้อน ฯลฯ ทำให้เส้นผมของเราไม่ได้รับการผ่อนคลายที่ดี วันนี้ดิฉัน วิธีดีดีเกี่ยวกับการล้างสารพิษให้เส้นผมนะค่ะ สำหรับใครที่พอมีเวลาบ้างสำหรับเส้นผมของคุณ ลองนำวิธีเหล่านี้ใช้กันนะค่ะ

    ขั้นตอนการนวด เพื่อคืนพลังชีวิตให้กับหนังศรีษะและเส้นผมนั้น ควรปฏิบัติเป็นประจำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง เป็นขั้นตอนที่เพิ่มขึ้นหลังจากการบำรุงเข้มข้นพิเศษด้วยอินเทนซีฟเซรั่ม แบ่งออกเป็น 8 ท่าง่ายๆ ดังนี้


    ท่าที่ 1 นวดวนทั่วศรีษะ เพื่อกระตุ้นให้เซรั่มซึมเข้าหนังศรีษะและเส้นผม

    ท่าที่ 2 กระตุกเส้นผม เพื่อกระตุ้นกล้ามเนื้อศรีษะ ช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดี และผ่อนคลายเพื่อให้หนังศรีษะตื่นตัว พร้อมรับการบำรุงเต็มที่

    ท่าที่ 3 นวดขมับเพื่อผ่อนคลาย นวดไล่ลงไปจนสุดปลายผม กระตุ้นให้รูขุมขนขยยายตัว

    ท่าที่ 4 นวดกดไล่จุดทั่วหนังศรีษะ ใช้ปลายนิ้วไล่ทุกนิ้ว นวดตามเข็มนาฬิกา เพื่อให้เซรั่มซึมเข้าสู่หนังศรีษะและเส้นผม

    ท่าที่ 5 นวดกดจุดใต้ท้ายทอย เพื่อให้รู้สึกสบายและผ่อนคลายความเครียด

    ท่าที่ 6 นวดต้นคอ เพื่อปลดปล่อยความเมื่อยล้าระหว่างวัน

    ท่าที่ 7 กดจุดใต้ท้ายทอย ระหว่างร่องศรีษะด้านล่าง สำหรับผู้ที่นอนหลับยาก ให้หลับสบายตลอดคืน

    ท่าที่ 8 นวดผ่อนคลายไล่จากศรีษะ บ่า แขน และมือ เพื่อการพักผ่อนเต็มที่เหมือนการทำสปาทั้งตัว


    อ้างอิงจาก http://darkdogz.exteen.com